If You Held Me
“หืม”
เสียงเคาะประตูหน้าห้องปลุกให้ร่างเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาตื่นจากภวังค์
เงยหน้ามองนาฬิกาก็เห็นเข็มสั้นเลยเลขแปดไปเสียแล้ว บรรยากาศรอบตัวมืดมิดคงเพราะไม่ได้เปิดไฟในห้องกระมัง
คงมีแต่แสงไฟจากถนนที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างให้พอเห็นแสงบ้าง
“เดี๋ยวฉันฝากดูอัตสึโกะด้วยนะ พอดีฉันกับอายามิต้องเดินทางด่วน
อาจจะไม่ได้อยู่บ้านซักอาทิตย์นึง”
“ค่ะ มาเอะดะซัง”
รับคำของเจ้านายอย่างมาเอะดะ ริวโตะ ที่ดูท่าจะเร่งรีบมากจริงๆ ริวโตะหันไปสั่งลูกน้องคนอื่นที่ถือข้าวของพะรุงพะรัง
สัมภาระของริวโตะและอายามิ ให้นำไปใส่ในรถคันหรู ทั้งสองหันมาร่ำลาเด็กสาวที่นั่งไขว่ห้างอยู่กลางห้องรับแขกขนาดใหญ่ ที่กำลังนั่งเล่นมือถืออย่างไม่สนใจ
“อยู่กับยูโกะ ก็อย่าดื้อนะอัตสึโกะ”
“ค่ะ พ่อ”
“อย่าทำอะไรให้ยูโกะลำบากใจหล่ะ”
“รู้แล้วค่ะพ่อ”
“พ่อกับแม่ไปหล่ะ เดี๋ยวถึงแล้วจะบอก ดูแลตัวเองดีๆนะอัตสึโกะ
ฝากด้วยนะยูโกะ”
“ค่า~”
“ค่ะ มาเอะดะซัง”
ยืนมองรถคันหรูที่แล่นออกจากคฤหาสน์ขนาดยักษ์ไปได้ซักราวๆนาที หันมองคุณหนูที่ไม่ได้เปลี่ยนกิริยาบทไปจากเดิมเสียเท่าไหร่
มือเรียวนั่งกดโทรศัพท์หรู หยิบรีโมทเปลี่ยนช่องไปมา ปล่อยให้คุณหนูของเธออยู่คนเดียวก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้งอีก
อย่างเจ้าตัวเองก็ดูจะไม่สนใจเธออยู่แล้วด้วย คิดดังนั้น ยูโกะก็เตรียมตัวเข้าห้องนอนตัวเอง
เธอเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
“จะรีบไปไหนหรอคะ โอชิม่าซัง” ก่อนจะได้ตอบอะไร ยูโกะรับรู้ได้น้ำหนักตัวที่โถมมาจากด้านหลัง
คางมนเกยกับไหล่ของร่างเล็ก จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของอีกฝ่ายที่กำลังคลอเคลียอยู่ข้างใบหู
“วันนี้หายไปไหนมาหรอคะ ทำไมไม่ยอมมารับฉันที่โรงเรียน”
“พอดีมีธุระนิดหน่อย”
“ทั้งที่โอชิม่าซังเองก็เป็นบอดี้การ์ดของฉัน แต่ทำไมไม่ยอมดูแลฉันละคะ”
“ฉันคิดถึงโอชิม่าซังมากเลยนะคะ ”
“อ้ะ อัตสึโกะ หยุด” ดันแขนของคนเด็กกว่าที่กอดเธอแน่น มือเรียวถือวิสาสะลูบหน้าท้องของเธอผ่านเสื้อเชิ้ตตัวบางอย่างเอาแต่ใจ
ปัดป่ายไปทั่ว เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นข้างใบหู ได้ยินเสียงบ่นพึมพำเล็กน้อยของเจ้าตัวเหมือนเด็กที่โดนขัดใจ
แต่ก็ยอมปล่อยเธอโดยดี ยูโกะเปรยตามองเจ้าตัวที่ส่งยิ้มมาให้อย่างไม่ปิดบัง
รอยยิ้มที่ดูไม่มีพิษสง แต่กับคนที่อยู่กับอัตสึโกะมาค่อนชีวิตอย่างเธอ ทำไมจะดูไม่รู้หล่ะ
ยิ้มแบบนี้นี่มันจงใจยั่วเธอชัดๆนิ
“ฉันเหนื่อยแล้วขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวโอชิม่าซังอยู่สอนการบ้านฉันก่อนนะคะ”
“อืม”
ถอนหายใจอย่างโล่งอก เดินเข้าห้องครัว รินน้ำดื่มแก้กระหายและดับอารมณ์คุกรุ่นของตัวเองที่เกิดจากเด็กช่างยั่ว
ร่างเล็กเดินถือแก้วน้ำมานั่งดื่มตรงโซฟาในห้องนั่งเล่นนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูเมื่อรับรู้ได้แรงสั่นสะเทือน
“ว่าไง ฮารุนะ”
“ยังไงเรื่องวันนี้ก็ต้องขอบคุณยูจังมากเลยนะ”
“เรื่องเล็กน้อยหน่า”
“ยูจังคงเหนื่อยแย่เลย”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันทำเพื่อฮารุนะได้เสมอแหละ”
นั่งคุยกับเพื่อนสนิทวัยเด็กอย่างฮารุนะ อยู่ราวๆสิบนาที ฮารุนะเพิ่งเปิดร้านคอฟฟี่ช็อป
ตามความฝันวัยเด็กของเจ้าตัวที่คอยบอกยูโกะอยู่เสมอ เมื่อเช้าเธอเพิ่งได้มีโอกาสเข้าร้านตามคำชวนของอีกคน
นั่งคุยกับฮารุนะที่ร้านอยู่ซักพักจึงได้รู้ว่าลูกน้องของร่างสูงดันป่วยกะทันหัน ยูโกะจึงอาสาอยู่ช่วยฮารุนะทำงานจนร้านปิด
“แปปนะ ฮารุนะ พอดีมีสายเข้า”
“โอชิม่าซังคะ ขึ้นมาหาฉันที่ห้องหน่อยค่ะ”
นอกจากจะช่างยั่วแล้วยูโกะคงลืมไปละมั้งว่าอัตสึโกะยังเป็นเด็กเอาแต่ใจเสียด้วย
เธอตัดสายด้วยอารมณ์หงุดหงิดก่อนจะปาโทรศัพท์ลงบนเตียงขนาดคิงไซส์อย่างแรง
เมื่อกี้เธอลงมาจากชั้นบนหมายจะเรียกให้บอดี้การ์ดตัวเล็กขึ้นมาหาเธอที่ห้อง
ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกคนนั่งคุยโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดีกับฮารุนะซัง
อัตสึโกะพอจะรู้มาบ้างว่าทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่วัยเด็ก อดจะอิจฉาไม่ได้ไม่ว่าเมื่อไหร่ถ้าเป็นเรื่องของฮารุนะ ยูโกะก็จะเห็นเป็นเรื่องสำคัญเสมอๆ เธอแค่อยากเจอยูโกะบ้างแม้จะอยู่บ้านเดียวกันก็เถอะ ช่วงนี้คนตัวเล็กดูยุ่งกว่าปกติ เวลากินข้าวพร้อมกันยังไม่ค่อยจะมี
อัตสึโกะพอจะรู้มาบ้างว่าทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่วัยเด็ก อดจะอิจฉาไม่ได้ไม่ว่าเมื่อไหร่ถ้าเป็นเรื่องของฮารุนะ ยูโกะก็จะเห็นเป็นเรื่องสำคัญเสมอๆ เธอแค่อยากเจอยูโกะบ้างแม้จะอยู่บ้านเดียวกันก็เถอะ ช่วงนี้คนตัวเล็กดูยุ่งกว่าปกติ เวลากินข้าวพร้อมกันยังไม่ค่อยจะมี
งั้นวันนี้ที่หายไป ก็ไปหาฮารุนะซังมาหรอ
“ฉันเข้าไปนะ”
เคาะประตูหน้าห้องนอนแต่ก็ไร้เสียงตอบรับจากอีกคน
ร่างเล็กจึงถือวิสาสะเปิดประตูบานไม้สักเข้าไป
ปึง!
เสียงประตูห้องดีดเข้าหากันพร้อมร่างของคนตัวเล็กกว่าที่ลอยหวือไปติดกำแพงห้อง
“อ้ะ..”เสียงครางพร่าดังออกมาจากปากบางเฉียบที่แดงช้ำเพราะถูกบดเบียดด้วย จูบอันร้อนแรง ร่างเล็กบิดลำคอหนีริมฝีปากร้อนอย่างลำบาก
ริมฝีปากร้อนของเด็กเอาแต่ใจ
ก่อนลำคอจะโดนยึดไว้ด้วยท่อนแขนแล้วบังคับให้รับจูบที่กลืนกินลมหายใจ
“อัตสึโกะ ..พอก่อน..” ดันตัวของอีกคนที่ดูจะรุกร้ำไม่หยุด เงยหน้ามองอีกคนก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าหวานของคนเด็กกว่าคลอไปด้วยน้ำตา
ขอบตาของเจ้าตัวดูบวมปูดคล้ายผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ร่างเล็กพยุงอีกคนที่ไม่พูดไม่จาไปที่โซฟาขนาดใหญ่ภายในห้องนอนของอัตสึโกะ
เธอเอื้อมมือเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้อีกคนอ่อนโยน
“เป็นอะไรหื้ม”
“……..”
“……..”
“วันนี้ไปหาฮารุนะซังมาหรอคะ”
“อื้ม”
“…………….”
“ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก”
“ช่างเถอะค่ะ”
“อัตสึโกะ..”
“ฮารุนะซังคงสำคัญกับคุณมากเลยซินะคะ”
ร่างเล็กรับรู้ได้ถึงความรู้สึกน้อยใจของคนตรงหน้า
เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอโดนเรียกว่าคุณ ไม่โดนโมโหจัดก็ต้องโดนโกรธจัด แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป
ใบหน้าสวยนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา ตั้งแต่ความสัมพันธ์ของเธอกับอัตสึโกะพัฒนากลายมาเป็นคนรัก
นี่คงเป็นครั้งแรกกระมังที่เห็นอัตสึโกะเป็นแบบนี้
จะว่าไปช่วงนี้เธอไม่ค่อยจะมีเวลาให้คนตรงหน้าเสียเท่าไหร่
ไหนจะยุ่งกับงานของบริษัทอย่างมาเอะดะคอร์ปที่เธอได้รับความไว้วางใจจากริวโตะให้เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ
ไหนจะต้องดูแลอัตสึโกะอีก ยูโกะเป็นลูกของยาสุชิผู้เป็นทั้งเพื่อนรักและหัวหน้าบอดี้การ์ดของตระกูลมาเอะดะ
ยูโกะเข้าออกบ้านหลังนี้ตั้งแต่เด็ก เธอเองก็เห็นอัตสึโกะมาตั้งแต่แบเบาะ แม้พ่อของเธอจะเสียชีวิตไปเมื่อราวๆห้าหกปีก่อนแต่ริวโตะกับอายามิก็ดูแลเธออย่างดีเหมือนลูกสาวคนนึง
การดูแลอัตสึโกะเป็นสิ่งเดียวที่เธอพอจะตอบแทนได้บ้าง
“คนที่สำคัญกับฉัน ก็มีแค่อัตสึโกะคนเดียวนั่นแหละ”
ไม่รอให้อีกคนพูดจา ยูโกะผลักให้อีกคนล้มตัวลงนอนบนโซฟาก่อนจะถือวิสาสะขึ้นคร่อมคนข้างใต้
ที่ดูจะตกอกตกใจไม่น้อย อัตสึโกะดิ้นขลุ่กขลั่กหวังให้ยูโกะปล่อย
เธอเกลียดสายตายูโกะ สายตาที่ทำให้เธอเหมือนโดนมนต์สะกด
ริมฝีปากอิ่มไม่รอช้าทาบลงแตะที่กลีบปากบางสีระเรื่อแผ่วเบา ดวงตากลมโตสะท้อนภาพความบริสุทธ์ของคนข้างใต้ จุมพิตแผ่วเบาค่อยๆลึกซึ้งขึ้นจนกลายเป็นการขบเม้มกลืนกิน จมูกโด่งและริมฝีปากร้อนไล่คลอเคลียผิวเนื้ออ่อนลงมาถึงปลายคาง แทะเล็มต้นคอขาวและล้วงมือเข้าไปใต้ชุดนอนบางเบา
ลูบไล้ขึ้นลงหนักมือจนอัตสึโกะกลัวว่ามันจะทิ้งร่องรอยช้ำเอาไว้
“ยูโกะ....”
เสียงแหบพร่าของคนโดนรุกเร้าเอ่ยขึ้น ดวงตาที่เงยขึ้นสบจ้องดวงตากลมโตของอีกคน
รู้สึกสั่นไหวไปทั้งกาย ทั้งความเสน่หาและปรารถนาอันร้อนแรงที่สะท้อนออกมาจากดวงตาคู่นั้น
มือเรียวพยายามยกขึ้นต่อต้านสัมผัสคนด้านบนและพยายามดันใบหน้าของอีกคนออกไป
แต่ไม่อาจต้านทานต่อความปรารถนาที่อีกคนมีได้ ความร้อนที่เติบโตใต้ชุดนอนตัวบางทำให้อัตสึโกะสั่นสะท้าน
“ ขอนะ..”
เสียงทุ้มพร่าที่ดังชิดใบหูทำให้หน้าหวานแดงก่ำ แม้เธอกับอัตสึโกะจะสัมผัสกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอแสดงความต้องการคนตรงหน้าได้ขนาดนี้ อาจเพราะวันนี้ที่เธอไม่ได้เจออีกคน
เลยทำให้เธอคิดถึงอัตสึโกะแทบบ้า หรือคงเป็นเพราะการกระทำเมื่อกี้ที่ยูโกะรู้สึกว่าอีกคนช่างน่ารักเหลือเกิน
ลิ้นร้อนลากผ่านลำคอขาวจนมาหยุดที่หน้าอกสองข้างของอัตสึโกะ
ยูโกะไม่รอช้าที่จะก้มลงดูดดุนหน้าอกที่ตั้งชัน มืออีกข้างปัดป่ายไปทั่วลำตัว ให้อัตสึโกะครางฮือ
มือเรียวขยุ้มเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนแน่น หายใจติดขัดเมื่อใบหน้าสวยของคนตัวเล็กค่อยๆเคลื่อนต่ำ
ไม่รอช้ายูโกะกระชากชุดนอนตัวบางให้ลงไปกองที่พื้นห้อง ยกแยกขาเรียวออกกว้าง จ้องมองส่วนอ่อนไหวของอีกคนก่อน ก้มลงครอบครองด้วยริมฝีปาก ปลายลิ้นร้อนระอุตวัดลิ้มชิมความหวาน ไล่ต้อนเสียจนหน้าท้องผ่อง
บิดเกร็ง อัตสึโกะจิกหมอนแน่น
แอ่นร่างขึ้นเพราะต้านทานความรุ่มร้อนในกายไม่ไหว
เสียงครางผะแผ่วยั่วเย้าสติของยูโกะะให้ยิ่งเตลิด เธอกลืนกินอัตสึโกะด้วยริมฝีปากอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะสอดปลายนิ้วเข้าแตะต้องที่ช่องทางเร้นลับ คนข้างใต้บิดเกร็งพรางร้องเสียงสั่นด้วยความหวาบหวาม
ร่างเล็กยึดเอวบางแน่น สอดนิ้วเพิ่มเข้าไปก่อนจะขยับเข้าออกเชื่องช้าด้วยความคับแน่น ยูโกะดึงมือเรียวที่จิกหมอนขึ้นมาพาดไว้บนไหล่ อัตสึโกะไม่รอช้าที่จะฝังฝากปลายเล็บไว้บนเนื้อตัวของเธออย่างไม่ออมแรง
“รักนะ”เสียงทุ้มกระซิบอยู่ข้างใบหู ลมหายใจอุ่นร้อนที่กระทบเข้ากับต้นคอเปลือยเปล่าไม่ได้ทำให้อัตสึโกะสั่นที่กาย แต่มันหวามไหวลึกลงไปถึงกลางหัวใจ
อัตสึโกะผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ พิงศรีษะกับหน้าอกของอีกคนอย่างเหนื่อยอ่อน
ใบหูเแนบอยู่กับแผ่นอกด้านซ้าย จังหวะหนักๆที่สม่ำเสมอ จังหวะที่คุ้นเคยเพราะมันเป็นเสียงเดียวกัน
ความสงบยามได้ใกล้ชิด ความผ่อนคลายยามได้อิงแอบ
ทั้งหมดนั่น ไม่แตกต่างกับที่อัตสึโกะรู้สึกเลย
“อัตสึโกะ...รักฉันบ้างไหม?...”ปลายนิ้วอุ่นจนร้อนไล้เบาๆตั้งแต่ต้นคอเรียวที่เป็นจุดไวสัมผัสของคนในอ้อมกอด
ลากไล้แผ่วๆจนกระทั่งถึงหัวไหล่กลมกลึง หยอกเย้ารอบรอยจ้ำรักที่กลางแผ่นหลัง ก่อนจะเลื้อยต่ำจนหายเข้าไปในผ้าห่มที่ปิดคลุมสะโพกนุ่มนิ่ม
“ยูโกะ!! ”อัตสึโกะร้องห้ามอย่างไม่จริงจังนัก แต่ก็ไม่ได้ปัดป้องสัมผัส
สัมผัสที่นุ่มนวลจนเธอเกือบหลอมละลาย
“ฉันบอกรักอัตสึโกะ แต่ไม่เห็นอัตสึโกะจะบอกฉันบ้างเลย”ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะพลิกร่างคนเด็กกว่าให้แผ่นหลังติดเตียงกว้างแล้วคร่อมทับ อัตสึโกะเม้มริมฝีปากแล้วหลบดวงตากลมโตที่จ้องมองมาอย่างลึกซึ้งมีความหมาย
“ฉันก็รักยูโกะเหมือนกัน”คำพูดอ้อมแอ้มเสียงเบาไม่ต่างจากเสียงลมหายใจทำให้ก้อนเนื้อใต้หน้าอกสั่นไหวและบีบรัด ด้วยความสุขจนเธอเกือบสำลัก
จ้องตาคนตัวเล็กค้างอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่สายตาของยูโกะก็ดูอบอุ่นและอ่อนโยนอยู่เสมอ
ตั้งแต่เธอจำความได้ก็เห็นอีกคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกับเธอเสียแล้ว ยูโกะเป็นทั้งพี่ทั้งเพื่อนเล่นคอยปกป้องเธออยู่เสมอ
รู้ตัวอีกทีเธอก็รู้สึกกับอีกคนมากกว่าพี่น้องไปเสียแล้ว ไม่รู้นานแค่ไหนที่กรอบสายตาคอยมองและสนใจแต่เรื่องของยูโกะ
เธอยังจำสีหน้าราวกับถูกผีหลอกของยูโกะได้อยู่เลยเมื่อเธอเผลอสารภาพรัก คนตัวเล็กดูเหวออยู่ซักพักก่อนจะตอบตกลงคบกับเธอ
“ว่าแต่หึงฉันหรอ” ใบหน้าเล็กยิ้มกริ่มราวกับเด็กเมื่อยามได้ของเล่น
ริมฝีปากคลอเคลียรอบใบหู ให้คนในอ้อมกอดรู้สึกจั้กกะจี้เล่น อัตสึโกะหัวเราะคิกคัก
ใบหน้าหวานเลื่อนมือกระชับกับมืออีกคนที่โอบกอดเธอจากด้านหลัง
“หึงซิ หึงมากด้วย”
“ทีอัตสึโกะยังเอาแต่เล่นมือถือเลย คุยกับใครบ้างรึป่าวก็ไม่รู้”
“บาก้า ก็แค่เรียกร้องความสนใจจากคนแถวนี้เอง”
“นั่นแหละ ฉันก็หึงเหมือนกัน”
“ไม่ต้องทำมาเป็นหึงกลบเกลื่อนเลย ทีตัวเองกับฮารุนะซังหล่ะ”
ทุบลงบนไหล่เล็กของอีกคนเบาๆ อดหยิกแก้มคนตัวเล็กด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าโอเวอร์แอคติ้งของยูโกะ
เจ้าตัวยกมือเป็นเชิงยอมแพ้ สายตาทะเล้นเลื่อนมามองหน้าอัตสึโกะ
ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ฉันไม่ได้คิดอะไรกับฮารุนะซะหน่อย”
“อื้อ~”
“ฉันรักอัตสึโกะนะ”
“รู้แล้วหน่า ฉันเองก็รักยูโกะ...รักมากจริงๆ..””
END.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น