วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

if only 01

 01








นี่แกยังไม่ตอบฉันเลยนะ ว่าแกทะเลาะอะไรกัน





 นั่งรอคำตอบจากเพื่อนสาวหน้าคมที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จามาร่วมๆสิบนาทีได้ ตอนนี้พวกเธอกำลังนั่งเล่นกันภายในร้านกาแฟขึ้นชื่อในบริเวณมหาวิทยาลัย เมื่อเช้าอาจารย์ประจำวิชาดันเลิกคลาสเร็วกว่าทุกทีจึงตกลงว่าจะมานั่งเล่นประกอบกับการที่เพื่อนในกลุ่มอยากแวะหาอะไรทานรองท้องด้วย แต่ตั้งแต่เข้ามาภายในร้านก็มีอัตสึโกะนี่แหละที่เอาแต่เงียบผิดปกติ จนมิเนกิชิ มินามิที่กำลังตักเค้กคำโตเข้าปากอดไม่ไหวที่จะเอ่ยถามออกมา





ก็ไม่ได้ทะเลาะกันหรอกนะ มี่จัง” 




 
มิเนกิชิ มินามิหรือมี่จัง พยักหน้ารับก่อนจะส่งสัญญานเป็นเชิงให้อัตสึโกะที่กำลังนั่งคนแก้วโกโก้ในมือเล่าต่อ




แล้ว?




แค่เลิกกันแล้วหน่ะ




เห้ย!”





ยิ้มบางๆเมื่อเห็นสีหน้าตื่นตกใจของอีกฝ่าย มี่จังลุกขึ้นขอโทษขอโพยคนในร้านที่หันมามองพวกเธอเป็นสายตาเดียว ก่อนจะหันมาซักไซ้ไม่หยุดให้เธอรู้สึกปวดหัว อัตสึโกะรู้สึกโชคดีที่เธอไม่ต้องตอบคำถามอะไรมาก เมื่อสาวสวยผมทองที่ดูท่าว่าจะเป็นเจ้าแม่ด้านแฟชั่นนิสต้า อย่างอิตาโนะ โทโมะมิเพื่อนสนิทอีกคนของเธอ เพิ่งเดินเข้ามาในร้าน
 




โทโมะจินแกรู้มั้ย ว่าอัตจังกับแฟนเลิกกันแล้ว



 
เอ๊ะ! จริงหรอ?




ยังไม่ทันจะหย่อนตัวลงนั่งกับโซฟา นุ่ม โทโมะจินก็ต้องตกใจกับข่าวของอัตสึโกะที่เพื่อนบอก เมื่อวานก็ยังเห็นดีๆกันอยู่เลยนี่หน่า แล้วทำไมเลิกกันเสียได้หล่ะ เธอเองก็รู้สึกสงสัยจนไม่คิดที่จะห้ามมี่จังที่กำลังซักถามอัตสึโกะ




เลิกกันเพราะอะไรอะแก




ไม่มีอะไรมากหรอก




แล้วยู มันทำอะไรแกหรือป่าว




ป่าว ยูไม่ได้ทำอะไรฉันหรอก มีแต่ฉันนั่นแหละที่ทำเขา




เอ๋?




แค่ลงไม้ลงมือกันนิดหน่อย





ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเสียเท่าไหร่สำหรับมี่จังและโทโมะจิน ต้องบอกว่าพวกเธอชินแล้วมากกว่า เท่าที่ได้ยินมาสองคนนี้ทะเลาะกันทีไรก็ลงไม้ลงมือกันตลอด จะดีหน่อยที่โอชิม่า ยู แฟนของอัตสึโกะไม่เคยใช้กำลังเพื่อนของเธอ จะมีก็แต่เพื่อนของเธออย่างมาเอะดะ อัตสึโกะนี่แหละมั้งที่เป็นฝ่ายลงไม้ลงมือตลอด




โอเคนะ อัตจัง?”




ไม่หรอกโทโมะ เลิกกันไปดี




แกพูดเหมือนแกไม่รักยูแล้วเลย
 




ไม่ใช่ไม่รัก รักซิ




“………..”




ก็ยังรักเหมือนเดิม




“………..”





แต่ฉันคิดว่าฉันทนความงี่เง่าของยูไม่ไหวแล้วหล่ะ





ใช่พวกเธอรู้ดีว่าต้นเหตุที่ทำให้สองคนนี้ทะเลาะกันใหญ่โตก็คงเป็นเพราะความงี่เง่าของยูนี่แหละ ที่นับวันยิ่งดูจะมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งอัตสึโกะเป็นฝ่ายไม่ยอมคน จึงยิ่งทำให้สองคนนี้ทะเลาะกันรุนแรง เป็นประจำที่ฝ่ายใดฝ่ายนึงต้องไปอาศัยนอนห้องเพื่อน แต่ก่อนพวกเธอมักจะถามเพื่อนสาวหน้าคมเป็นประจำว่าทำไมถึงไม่ยอมเลิกกันเสียที ก็มักจะได้รับคำตอบเดิมๆทุกครั้งว่า ยังไหว แต่ดูจากที่เพื่อนเธอพูดครั้งนี้อัตสึโกะคงทนไม่ไหวจริงๆแล้วละมั้ง
 .
.
.
.
.
.
.
.
.
 .
ประตูถูกเปิดออกก่อนจะปรากฎห้องขนาดพอเหมาะที่ถูกตกแต่งไปด้วยโทนสีเข้ม ยูโยนรองเท้าผ้าใบทิ้งลวกๆ เขาขอปลีกตัวจากกลุ่มเพื่อนเพื่อกลับมางีบเอาแรงหลังจากที่เมื่อคืนเค้าแทบไม่ได้นอนเท่าไหร่ เพิ่งได้นอนจริงจังก็ตอนราวๆหกโมงกว่า แถมเมื่อเช้าเขายังออกไปเรียนสายเสียอีก ชายหนุ่มร่างเล็กสาวเท้าเข้าห้องนอนก่อนจะทิ้งตัวนอนบนเตียงขนาดคิงไซส์ที่ ไร้แววของผู้ร่วมห้องอีกคน ก็ดีเหมือนกัน เพราะเขาคงทำหน้าไม่ถูกถ้าต้องเจอหน้ากันในตอนนี้





พลางนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เขาทะเลาะกับอัตสึโกะ ก็อดที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดตัวเองเสียไม่ได้  เมื่อ คืนอัตสึโกะไลน์มาบอกเขาราวๆสองทุ่มว่าลืมคีย์การ์ดที่ใช้เข้าห้องให้เขาเอา มาให้เธอหน่อย ยูกะจะโทรเข้าสำนักงานหอแต่ก็นึกได้ว่ามันปิดตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว รู้สึกห่วงอีกคนจนต้องทิ้งงานโปรเจคที่เขากำลังประชุมกับเพื่อนเพื่อกลับมา ห้อง  






แต่เขากลับไม่เห็นเงาของอัตสึโกะเลยแม้แต้น้อย โทรศัพท์ของเจ้าตัวก็ไม่มีสัญญาน ชายหนุ่มได้แต่รออีกคนในห้องอย่างกระวนกระวายด้วยความรู้สึกเป็นห่วง พยายามติดต่อเพื่อนของอัตสึโกะก็ติดต่อไม่ได้ ชายหนุ่มทิ้งตัวบนโซฟาใหญ่ในห้องนั่งเล่นด้วยความหงุดหงิด ยูจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่านั่งรออีกคนนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู  เดินไปเปิดประตูก่อนจะเห็นสาวเจ้าเดินเข้าห้องพร้อมกับรอยยิ้มแหยๆ

 
 


ยู…….”
 
 
 

ไปไหนมา
 
พอดีมีธุระนิดหน่อย ขอโทษที่ไม่ได้บอก
 
 
ไม่เป็นไร ไม่ได้โกรธ
 
 
 
รู้สึกผิดมาก ยิ่งเห็นสีหน้าอีกคนยิ่งรู้สึกผิด ทั้งที่เธอเป็นคนบอกอีกฝ่ายตั้งแต่สองทุ่ม แต่เธอดันกลับผิดเวลาไปมากโข 
อัตสึโกะไม่คิดว่าแฟนหนุ่มจะนอนรอเธออยู่ในสภาพที่หลับทั้งชุดนักศึกษาแบบนี้ หญิงสาวเงยหน้ามองนาฬิกาเรือนหรู
ก็เห็นตัวเลขที่บกบ่องเวลาเที่ยงคืนกว่า เท่ากับว่าเขานอนรอเธอแบบนี้มาสี่ชั่วโมงกว่าๆได้แล้วซินะ 
 
 
 ฉันเป็นห่วง นึกว่าเธอเป็นอะไรไปแล้ว 
 
อื้ม ขอโทษจริงๆ มีงานประชุมต่อเรื่องงานคณะหน่ะ ยุ่งมาก




ทีหลังก็น่าจะบอกกันซะหน่อย




ขอโทษ อย่าโกรธกันเลยนะ
 
 
“………..”
 
 
 
นะ ยูจังนะ
 
 
ยูจัง
 
 
หายงอนนะ
 
 
 
ก็ได้
 

กอดอีกคนแน่นให้คนที่ตีหน้านิ่งนั่งอยู่บนโซฟาหันมาขยี้เรือนผมนุ่มของเธออย่างไม่จริงจังนักจุดอ่อนของแฟนหนุ่ม 
อัตสึโกะรู้ดี ยูเป็นคนแพ้คนขี้อ้อน ยูถึงไม่เคยโกรธเธอได้นานซักที
 
 
 
ถามอีกฝ่ายที่กลับดึกว่าทานอะไรหรือยังก็ได้รับการส่ายหัวเป็นเครื่องยืนยันเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด อัตสึโกะเป็นพวกชอบทาน
อาหารไม่ตรงเวลา ปล่อยให้หญิงสาวทำอะไรไปพลางๆ ส่วนตัวเขาก็ลุกขึ้นมาอุ่นข้าวให้อีกคน
 
 
แล้วที่ประชุมงานวันนี้เรื่องอะไรหรอ
 
 
งานละครเวทีของคณะอะ
 
ตบเบาะให้คนที่นั่งอ้อนเมื่อกี้ลงมานั่งทานข้าวเห็นหญิงสาวหยิบกระดาษที่ดูท่าจะจดรายการและกำหนดการสำคัญออกมาดู
พิงหัวเข้ากับไหล่ของชายหนุ่มพร้อมบ่นพึมพำ 


แล้วอัตสึโกะอยู่ฝ่ายไหนละ
 
 
 
 
ให้ทายค่ะ
เด็กยกของหรอ
 
 
โหว ไม่เคยรู้มาก่อนนะเนี่ย  



หูย สวยๆอย่างนี้ก็ต้องนักแสดงซิคะ
 

กวนประสาท หญิงสาวว่าอย่างนั้นก่อนระดมกำปั้นเล็กใส่ชายหนุ่มยูหัวเราะด้วยความเอ็นดูก่อนจะส่ายหน้าทำทีเป็นเชิงยอมแพ้
ให้อัตสึโกะเล่าต่อ
 
 
 
ฉันได้เล่นเป็นโรสแหละ
หืม?
ไททานิคไงคะ
แล้วใครแสดงเป็นแจ๊ค 
 
 
ไค เพื่อนสนิทฉันเอง
ทาคาฮาชิ ไค?”
ช่าย จริงๆคือหมอนั่นเตี้ยมาก แต่รุ่นพี่ชอบเพราะร้องเพลงเพราะ
 
 อ่อ 
 
เพราะมากเลยแหละยูจัง ฟังแล้วเคลิ้มสุดๆเลย 
 
 
 
 
อือ
 
 
ดีจังเลยน้า~ ได้เล่นกับคนที่สนิทกันจะได้ไม่เขิน
 
 
อืม
วันนี้พี่เขาเลยให้อยู่ซ้อมบทกันหน่ะ
 
 
 
 
 
อ๋อ ที่กลับดึกเพราะแบบนี้ซินะ
 
 
ยูจังเป็นอะไรรึป่าว
 
 
 
 
ป่าว
 
 
เป็นอะไร
 
 
 
  
ก็บอกว่าป่าวไง!!”
เผลอตัวตวาดอีกคนอารมณ์หงุดหงิดที่คิดว่าจะหายไปเริ่มกลับมาปะทุอีกครั้ง ตัดบนสนทนากับอีกฝ่ายก่อนจะลุกจากโซฟา
เตรียมตัวเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย เขาเองก็เหนื่อยมามากทั้งวันแล้ว
อย่ามางี่เง่า
ว่าไงนะ
 
ทำไมต้องงี่เง่าด้วย ก็แค่กลับดึกนิดเดียว 
 


นิดเดียว?”
จะให้ทำยังไงละ
แล้วคิดจะบอกกันบ้างมั้ย
“…………..”
นี่แฟนนะ อย่างน้อยก็น่าจะแคร์กันบ้าง
“…………..”
“…………..”
เหนื่อยจากงานในคณะแล้ว ทำไมต้องกลับมาเจอเรื่องงี่เง่าแบบนี้ด้วยวะแม่ง เบื่อ



โมโหมาก จนหลุดปากพูดคำหยาบใส่อีกคน จะว่าไปมันไม่ใช่ความผิดของยูเลยซักนิด แต่ด้วยอารมณ์เหนื่อยจากงานแถมยังกลับมาเจอคนงี่เง่า ทำให้เธอรู้สึกรำคาญใจอย่างบอกไม่ถูก เธอก็แค่ต้องการคนที่เข้าใจเธอบ้าง แค่รับฟังเธอก็ยังดี ไม่ใช่มางี่เง่าใส่เธอแบบนี้




แล้วทำไมต้องพูดคำหยาบด้วยวะ
 
 
 
ยูพอเหอะ รำคาญ 
 
 
รำคาญมากมั้ย
 

เออมาก พอใจรึยัง
 
 
 
พยายามเดินหนีเพื่อตัดบทสนทนา อย่างน้อยเธอก็ไม่อยากทะเลาะกับยูตอนนี้หรอกอีกทั้งเธอก็รู้สึกไม่ดี
ที่เผลอพูดอะไรแย่ๆใส่อีกฝ่ายด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล แต่รอยบีบที่ถูกยูกระชากแขนมันเจ็บจนอัตสึโกะต้องเผลอเบ้หน้า 
 
 
เพี๊ยะ!!” 
ก่อนจะรู้ตัวเธอก็ตบชายหนุ่มตัวเล็กเต็มแรงจนใบหน้าอีกฝ่ายขึ้นรอยปื้นแดงเสียแล้วอัตสึโกะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเข้าไปทุบตีอีกฝ่าย
ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกสติขาดผึงก็ตอนที่โดนยูผลักลงไปกระแทกกับพื้นก้นจ้ำเบ้า เจ็บจนเธอน้ำตาคลอ    
 
อัตจัง เป็นอะไรหรือเปล่า
 
 
เห็นอีกฝ่ายล้มไปกองกับพื้น ชายหนุ่มจึงรีบเข้าไปประคองด้วยความเป็นห่วงแต่ก็โดนอัตสึโกะปัดมือออกเป็นเชิงไม่ให้เขาเข้าไปยุ่ง
ทั้งที่เขาอยากจะเข้าไปเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายมากเหลือเกิน  
 


จะไปไหนก็ไปไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก!!”
 

แต่………”
 

 
บอกให้ออกไป
 

 
“…………..”
 

 
ถ้าไม่ไป เดี๋ยวฉันไปเอง
 
 
อัตสึโกะ
 
 
พูดเสร็จก็เห็นอีกคนเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่คิดจะสนใจเขาที่อยู่ตรงซักนิด ถอนหายใจอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะหยิบข้าวของสำคัญ
ยัดลงใส่กระเป๋าสะพายใบเก่ง ยูรู้ว่าต่อให้พูดไปตอนนี้ก็มีแต่แย่ลง ไม่อยู่ให้อีกฝ่ายเห็นหน้าคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเวลานี้  
 
 
แสงไฟบนห้องดับลง เป็นสัญญาณให้คนที่แอบมองอย่างยูค่อยๆเคลื่อนรถออกไปแม้จะชั่งใจอยู่พอสมควรแต่เขาก็ไม่มีทางเลือก
นอกจากทำตามที่อัตสึโกะร้องขอ อดโกรธตัวเองไม่ได้ที่ใจร้อน ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล อย่างน้อยเขาก็ควรใจเย็นกว่านี้หน่อย
ไม่ใช่หรอ รู้สึกแย่ที่ทะเลาะกับอีกฝ่ายจนถึงขนาดลงไม้ลงมือ

แต่ที่เขารู้สึกแย่ที่สุดคือการทำให้คนที่รักร้องไห้เพราะตัวเขาเองนี่แหละ





Tbc.