วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2557

Am I deserve a second chance?

 01







ฉันคิดว่าเราสองคนเลิกกันเถอะ

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

ซายากะจัง~”



“………….” 



ซายากะจัง~”



“………….”


 
ซายากะจัง~”



เสียงอ้อน รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ดังขึ้นจากสาวหน้าสวยที่ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาขนาด ใหญ่คล้ายจะเรียกร้องความสนใจจากสาวผมสั้นที่กำลังง่วนอยู่กับแป้นพิมพ์ โทรศัพท์ให้เจ้าตัวเปรยตามองก่อนจะครางตอบรับในลำคอ



หื้ม



รู้สึกเหมือนโดนละเลย มือเรียวเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ของอีกคนที่เจ้าตัวดูจะติดนักติดหนา แต่ก็ยังไม่ได้ทันจะทำอะไรกับมันก็โดนสายตาดุๆของยามาโมโต้ ซายากะที่จ้องเขม็งมาทางเธอจัดการเข้าให้ 



ฉันไม่มีอารมณ์มาเล่นด้วยหรอกนะ วาตานาเบะ มิยูกิ เอามือถือคืนมาแล้วนั่งดีๆ 




ทำหน้าบูดเป็นเด็กโดนขัดใจ เธอส่งโทรศัพท์ให้อีกคนอย่างไม่มีทางเลือกมากนักก่อนจะนั่งลงข้างคนผมสั้น อีกรอบ เห็นอีกฝ่ายดูสนใจเจ้าเครื่องมือสื่อสารในมือก็อดจะเอ่ยถามอย่างงอนๆไม่ได้



ซายากะ



ว่ายังไง 



เดี๋ยวนี้ซายากะสนใจโทรศัพท์มากกว่าฉันหรอ?



คนผมสั้นถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกเหนื่อยกับคำพูดอีกคนแต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรนอกจากปล่อยให้สาวตายิ้มนั่งจมกับความคิดของตัวเอง
.
.
.
.
.
.

ด้วยตารางที่ค่อนข้างจะรัดตัวจึงทำให้เธอต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ พอจะมีช่วงเวลาตอนนี้ที่ว่างอยู่บ้างซายากะจึงชวนแฟนสาวตายิ้มที่มีเวลาว่างตรงกันมานอนเล่นและดูหนังที่ห้องพัก แม้จะอยากไปไหนมาไหนแบบคู่รักคู่อื่นบ้าง แต่เธอก็ต้องยอมรับด้วยอาชีพของเธอจึงทำให้ไม่มีเวลาว่างได้อย่างคนอื่นเสียเท่าไหร่




ซายากะนอกใจฉันหรอ    



อย่าชวนทะเลาะได้มั้ยมิยูกิ
  



หลับตาพิงพนักโซฟาพร้อมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เธอรู้สึกปวดหัวกับคำถามของอีกคน ทั้งที่เวลาจะเจอกันยังแทบไม่ค่อยมีแต่อีกฝ่ายกลับชวนเธอทะเลาะแบบนี้อีก




ไม่ได้ชวนทะเลาะ แต่ฉันเห็นเธอดูมีความสุขที่ได้มีฉากจูบ



มิยูกิ…….




นี่ยังไม่นับที่เธอไม่ปฏิเสธตอนโดนจับให้เป็นคู่จิ้นกับตานั่นด้วย





แม้จะพูดเหมือนไม่คิดอะไรแต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความโกรธและความน้อยใจที่แฝงไว้ในน้ำเสียงราบเรียบของอีกฝ่าย





ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้งี่เง่าได้ถึงขนาดนี้นะ? 





 มิยูกิ เธอก็รู้ว่าฉันเป็นใครใช่ไหม รู้รึป่าวว่าฉันเหนื่อยแค่ไหน?!”



“…………….” 




ทั้งที่เธอก็รู้ว่ามันเป็นงานแต่เธอก็ยังทำเหมือนฉันนอกใจเธอ เธอเคยเข้าใจฉันบ้างรึป่าว?!”
 



เผลอขึ้นเสียงใส่มิยูกิที่นั่งก้มหน้างุดอย่างไม่ชอบใจ ความอดทนของคนเรามีขีดจำกันทั้งที่เธอพยายามอดทนมาตลอด แต่คราวนี้มันมากเกินไป วาตานาเบะ มิยูกิงี่เง่ามากเกินไป 





ฉันขอโทษละกัน ขอโทษที่เรียกร้องอะไรมากเกินไป




“…………………”



ฉันก็แค่ แค่อยากมีเดทที่ธรรมดาอย่างคนอื่นเข้าบ้าง!!” 




าดน้ำตาพร้อมตะโกนด้วยความน้อยใจใส่สาวผมสั้นที่ทำหน้าเบื่อเธออย่างไม่ปิดบัง เธอแค่รู้สึกว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนไป ยามาโมโต้ ซายากะไม่แคร์เธอเหมือนอย่างที่เคย 





ถ้าต้องการแบบนั้น งั้นทำไมไม่ไปคบกันคนธรรมดาซะเลยละ!!”





เห็นอีกคนร้องไห้จนสะอื้นตัวโยนเพราะคำพูดของตัวเองก็รู้สึกปวดใจอยู่ไม่น้อย เธออยากจะเข้าไปกอดปลอบและขอโทษอีกฝ่ายแต่ปากเจ้ากรรมดันไม่พูดออกไปตามที่รู้สึก 




...ฉันขอโทษ  



เอ่ยคำขอโทษอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา มิยูกิกวาดข้าวของใส่กระเป๋าสะพายใบที่สาวผมสั้นเคยซื้อให้เธอตอนคบกันแรกๆ ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องพักของอีกฝ่ายโดยไม่รอให้ซายากะรั้งเธอไว้ เธอเจ็บปวดเกินกว่าจะทนอยู่ให้อีกฝ่ายพูดจาทำร้ายจิตใจใส่




“มิยูกิเดี๋ยวก่อน!! มิยูกิ โธ่เว้ย



เขวี้ยงข้าวของในห้องด้วยความโมโหตัวเอง ปกติเธอไม่ใช่คนใจร้ายที่จะพูดอะไรไม่แคร์ความรู้สึกของแฟนสาวแบบนี้ แม้อีกฝ่ายจะดูงี่เง่าเอาแต่ใจไปซักหน่อย แต่การได้เห็นน้ำตามิยูกิวันนี้ทำให้เธอรู้สึกแย่กับตัวเองมาก ถ้าเธอใจเย็นกว่านี้อีกซักหน่อยเรื่องราวแบบนี้ก็คงจะไม่เกิด 





ขอโทษนะมิยูกิ
.

.
.
.
.

.
.

.
.

วันนี้เป็นอีกวันที่ตารางงานรัดตัวจนเธอแทบไม่มีเวลาพัก การเป็นดารามือใหม่ทำให้เธอไม่อยากเลือกงานเท่าไหร่นัก มีงานอะไรเธอก็อยากจะรับหมดเพื่อเป็นที่รู้จักในวงกว้างให้ได้เร็วที่สุดแต่ก็ต้องแลกกับการเวลาว่าง อย่างวันนี้ที่เธอเพิ่งเคลียร์งานที่เริ่มมาแต่เช้าจนเพิ่งมาเสร็จตอนสามทุ่มกว่า




เปิดมือถือขึ้นมาเช็คปกติซายากะเป็นคนไม่ชอบเปิดมือถือตอนทำงานเสียเท่าไหร่ เธอเป็นพวกที่ไม่ชอบให้มีอะไรมารบกวนระหว่างการทำงาน อุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นสายที่ไม่ได้รับนับร้อยพร้อมข้อความจำนวนมากจากแฟนสาวเด้งขึ้นมา ก่อนหันไปสั่งคนขับรถให้ขับรถไปยังที่พักมิยูกิด้วยความร้อนใจนึกอะไรขึ้นมาได้ 




เธอลืมวันครบรอบสองปีของเธอกับมิยูกิเสียสนิท







โอ้ย ลิฟต์มาเสียอะไรตอนนี้




วิ่งขึ้นบันได้อย่างเหนื่อยหอบจนมาหยุดที่หน้าห้องของสาวเจ้าที่เธอคุ้นเคยดีที่ห้องของมิยูกิไม่อยู่ชั้นที่สูงมากนัก ตอนนั่งในรถเธอพยายามสาวเจ้าหลายครั้งหลายหนก็ติดต่อไม่ได้ แปลกเหมือนกันทั้งที่เธออยากคุยกับอีกฝ่ายใจจะขาดแต่พอมาหยุดที่หน้าห้องเธอกลับไม่กล้าแม้แต่จะเคาะประตู ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร ประตูก็ถูกเปิดออกโดยอีกฝ่าย  



“………….”




มิยูกิ คือฉัน





เข้ามาก่อนซิ ซายากะจัง




เดินตามสาวตายิ้มที่เปิดประตูให้เธอเข้าไปในห้อง เห็นเจ้าตัวดูไม่โกรธเคืองเธอก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง มิยูกิเดินนำเธอมานั่งที่โซฟาก่อนจะมองหน้าเธอให้เธอรู้สึกแปลกใจ





มิยูกิเรื่องวันนี้ ฉันขอโทษนะพอดีงานฉันยุ่งมากจริงๆ......




ไม่ต้องขอโทษหรอก ไม่ใช่ความผิดซายากะซะหน่อย




อย่างงั้นหรอ






ซายากะ



หื้ม



ฉันคิดว่าเราสองคนเลิกกันเถอะ





มะ หมายความว่ายังไง……..”



มิยูกิเอื้อมมือจับแก้มของสาวผมสั้นก่อนลูบไล้อย่างแผ่วเบาคล้ายจะปลอบให้เธอสงบสติอารมณ์ลง ยิ้มอ่อนโยนที่มักทำให้ซายากะรู้สึกอุ่นใจ แต่วันนี้มันแปลกออกไป ซายากะรู้สึกไม่ต้องการรอยยิ้มแบบนี้เลยซักนิด





ฉันไม่ได้โกรธเรื่องวันนี้ ฉันเข้าใจซายากะ



แล้วทำไมหล่ะ มิยูกิ




ฉันเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างที่ซายากะเคยพูดไว้จริงๆแหละนะ 
หัวเราะด้วยความขมขื่น มิยูกิพยายามกระพริบตาเพื่อไล่หยดน้ำสีใสที่กำลังไหล เธอต้องไม่ร้องไห้ เธอต้องไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจ


 
ไม่ใช่.......ไม่ใช่แบบนั้นเลย




ฉันมักจะขอให้ซายากะพาฉันไปเดทและจับมือกันแบบคู่รักคู่อื่นเค้าบ้างทั้งที่ฉันก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ฉันมักขอให้ซายากะพาฉันไปดูหนังทั้งที่ฉันก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ฉันขอให้ซายากะพาฉันไปกินข้าวทั้งที่มันก็เป็นไปไม่ได้อีก ฉันมันจะขอ ขอในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้มาโดยตลอด  






กลั้นสะอื้นอย่างเจ็บปวด วาตานาเบะ มิยูกิกำลังเสียใจและเธอก็รู้ว่ายามาโมโต้ ซายากะรู้สึกไม่ต่างกันคนผมสัั้นโถมตัวเข้าใส่มิยูกิจากด้านหลัง กลั้นสะอื้นอย่างไม่อายอย่างคนขาดใจ ทั้งที่อยากจะหันไปกอดปลอบแต่มิยูกิทำได้แค่พยายามใจแข็ง มือเรียวดิ้นหลุดออกจากอ้อมกอดก่อนดันตัวอีกคนเบาๆ




ต่างฝ่ายต่างเสียใจ แต่ที่เธอทำก็เพื่อซายากะทั้งนั้น
 





ฉันเห็นแก่ตัวที่ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของซายากะเลยซักนิด ฉันเอาแต่เรียกร้องทุกสิ่งทุกอย่างจากซายากะ แต่ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทำแบบนั้นแล้วหล่ะ ฉันไม่อยากเป็นคนทำลายความฝันของซายากะอีกแล้ว




ได้โปรด
.
.
 



มะ ไม่เอา…..”



มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราทั้งคู่ เราต่างทำร้ายกันและกันมามากพอแล้ว แล้วฉันก็ไม่อยากทำร้ายซายากะอีกแล้ว ไม่อยากแล้วจริงๆ…”




ขอร้อง
.
.
  


ฉันรักซายากะนะ รักมาโดยตลอด” 




เอ่ยความรู้สึกให้อีกฝ่ายฟังเป็นครั้งสุดท้าย เห็นซายากะร้องไห้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนความเข้มแข็งที่เธอพยายามสร้างมาก็พังทลายลง มิยูกิเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้อีกคนก่อนค่อยๆจรดริมฝีปากลงบนตำแหน่งเดียวกันกับอีกคน 




ไม่คิดว่าการจากลาทั้งที่ยังรักมันทำให้เธอเจ็บปวดขนาดนี้และคิดว่าซายากะคงไม่ต่างกัน 




รสจูบ ความอ่อนโยน เสียงหัวเราะ สัมผัสจากมิยูกิ แค่คิดว่าต่อไปเธอจะไม่มีโอกาสได้รับมันอีก เธอก็แทบจะทนไม่ไหว ที่คิดเอาไว้ว่าเป็นคนเข้มแข็ง แต่ไม่ใช่เลย เธอกำลังอ่อนแอ ถึงคราวที่คนเข้มแข็งอย่างซายากะต้องเสียน้ำตา




โชคดีนะ



อย่าฮึก.…”



ฉันเชื่อว่าซายากะต้องทำได้




อย่าทิ้งฉันไป
.
.




ที่รัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น