วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557

I Just [Sayaka x Anna x Miyuki x Haruka x Yui]



I Just  [Sayaka x Anna x Miyuki x Haruka x Yui]




01
 




คาบพละศึกษาเป็นอะไรที่ไม่น่าอภิรมย์เลยซักนิด ยิ่งกับวันที่แดดเปรี้ยงแบบนี้ด้วยยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ มือเรียวหยิบปกสมุดขึ้นมาพัดไล่ความร้อนจากไอแดดที่ลอดเข้ามาในโรงยิม แกว่งเท้าขึ้นลงไปมาบนสแตนด์อย่างเบื่อหน่ายเธอเป็นพวกประเภทไม่ชอบเล่นกีฬา เสียเท่าไหร่อาจจะเรียกว่าอ่อนด๋อยด้วยซ้ำ หันไปมองเพื่อนหน้าสวยที่นั่งเท้าคางมองไปยังกลุ่มวอลเลย์บอลที่คนในห้อง แข่งกันก็อดจะเพ่งความสนใจตามอีกคนไม่ได้


มองอะไรหน่ะ อันนิน



มิ้ลค์กี้ดูซิ ตลกดีเนอะว่ามั้ยคนที่นั่งข้างชี้ไปยังคนที่ถูกพูดถึง สาวผมสั้นที่กำลังวิ่งไล่ลูกบอลที่ลอยออกข้างสนามไปอย่างเอาจริงเอาจัง ผมเพ้าเจ้าตัวที่กระเซอะกระเซิง เสื้อพละที่ยับยู่ยี่ เจ้าตัวดูทุ่มเทเหมือนจะไปคัดทีมชาติก็ไม่ปาน



นั่นซินะ คิกคิก



ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กรอบสายตาเธอเพ่งมองแต่คนผมสั้น ทุกอิริยาบถของอีกคนทำให้เธออดอมยิ้มตามไม่ได้ ทั้งตอนรับบอลพลาดบ้างละหรือตอนที่โดนเพื่อนรวมทีมเอ็ดบ้างละ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเผลอจ้องหน้าอีกคนมานานเท่าไหร่รู้ตัวอีกทีก็สบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลที่กำลังจ้องมองเธอ 


หนะ หน้าเธอมีอะไรติดรึป่าว ?

 
เหนื่อยมั้ย


ไม่เท่าไหร่หรอก สนุกดี


เขยิบที่ให้คนผมสั้นที่เดินมานั่งแทรกกลางระหว่างเธอ กับอันนะ เธอควานหาขวดน้ำเตรียมยื่นให้อีกคนดื่มแก้กระหาย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นมือเรียวของเพื่อนสาวหน้าสวยยื่นขวดน้ำแร่อย่างดี ที่เหมือนเจ้าตัวจะเตรียมไว้เฉพาะให้คนผมสั้นยิ้มกว้างก่อนยกดื่มนี่น้ำค่ะ


 ขอบคุณนะ


อันนินนี่น่ารักจังเลยน้า~”


ชมแบบนี้จะอ้อนเอาอะไรคะ


ป่าวหรอกค่ะ แค่อยากชมเฉยๆ


อายมิ้ลค์กี้บ้างซิคะเน่


ไม่เห็นน่าอายตรงไหนเลยเนอะ มิยูกิ?


คนถูกพาดพิงได้แต่ยิ้มแกนๆแทนคำตอบให้คนสองคนตรงหน้า เธอรู้สึกไม่อยากจะมีส่วนร่วมในวงสนทนาของเพื่อนสนิทอย่างอิริยาม่า อันนิน กับเพื่อนร่วมห้องอย่างยามาโมโต้ ซายากะซักเท่าไหร่นัก บทสนทนาของคู่รักที่เพิ่งเปิดตัวคบกันอาจจะดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่เธอรู้สึกว่ามันไม่น่าฟังเลยซักนิด วาตานาเบะ มิยูกิกำลังรู้สึกอิจฉาเล็กๆ ไม่ใช่อิจฉาเพราะอยากมีแฟนหรือมีใครซักคนอย่างที่เธอคอยบอกอันนินมาโดยตลอด


 แต่เป็นความอิจฉาที่คนๆนั้นไม่ใช่เธอ
.
.
.
.
.
.

เสียงกริ่งบอกเวลาที่ดังขึ้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าถึง เวลาพักกลางวัน แม้จะเป็นโรงเรียนหญิงล้วนแต่เสียงจุกจิกที่ดังขึ้นก็ไม่แพ้โรงเรียนผู้ชาย ตอนนี้เธอกำลังโดนอันนะที่โดนซายากะกึ่งลากกึ่งฉุดอีกทอดนึงไปที่โรงอาหาร ถ้าไม่รีบ เดี๋ยวก็ไม่มีที่นั่งหรอกซายากะว่าอย่างนั้น 


ไปซื้อกันก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันนั่งจองโต๊ะให้ โบกมือให้อันนะที่หันมาถามเธอว่าจะไปซื้อข้าวพร้อมกันเลยรึป่าว คนหน้าสวยพยักหน้ารับก่อนจะรีบเดินตามคนผมสั้นที่ท่าทางจะหิวจัด จึงเดินตัวปลิวไม่รอใครแบบนี้


ไอเน่ มันจะรีบไปไหนของมันอะ


จะรู้หรอยุย ก็เดินมาด้วยกันเนี่ย


 อ่าวพารุ หมอว่าไงบ้างอะแก


มิยูกิไถ่ถามอาการของสาวหน้านิ่งเพื่อนสนิทอีกคนของเธอที่โดนพยุงโดยคนข้างๆให้นั่งลงถัดจากเธอ ชิมาซากะ ฮารุกะ ทำปากจู๋พร้อมยกนิ้วเป็นทำนองไม่ต้องห่วง อย่าให้เฝือกโดนน้ำซิพารุ เดี๋ยวมันก็ไม่หายหรอก โยโกยาม่า ยุยเพื่อนอีกคนในกลุ่มของเธอเอ็ดขึ้นเบาๆให้เจ้าตัวทำหน้างอ ก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันโดนซะหน่อย ทำไมยุยต้องดุกันด้วยละ



ปล่อยให้ทั้งสองคนเถียงกันเป็นเด็กๆ มิยูกิเลือกที่จะนั่งเงียบเป็นแบล็กกราวน์ประกอบฉากรอเวลาที่จะไปซื้อข้าว นึกแล้วก็อดจะอิจฉาคู่ยุยพารุไม่ได้ นี่ทั้งคู่ก็เพิ่งมาจากโรงพยาบาลหลังจากยุยพาพารุไปตรวจแผล เมื่อราวๆซักอาทิตย์ก่อนเพื่อนสาวเธอเกิดเดินซุ่มซ่ามตกบันไดบ้านจนต้องเข้าเฝือกที่ขา เดือดร้อนให้แฟนสาวของเจ้าตัวอย่างยุย ต้องรับหน้าที่คอยดูแลแฟนสาวที่พ่วงตำแหน่งเด็กดื้ออย่างพารุ


ไปซื้อข้าวได้แล้วแก แถวจะยาวไปถึงหน้าประตูโรงเรียนแล้ว


อื้อ~”


พารุจะทานอะไร กินเหมือนฉันละกันนะขี้เกียจไปต่อแถวอื่น


ชิ ไม่เห็นอยากกินแบบเดียวกับยุยเลย


อันนะกับซายากะเดินมาวางถาดอาหาร ก่อนไล่ให้มิยูกิกับยุยที่กำลังชี้หน้าคาดโทษใส่แฟนสาวที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ให้ไปต่อแถว เนื่องจากแถวที่ยาวเหยียดเพราะคนเริ่มทยอยลงมาจากอาคารเรียนเพิ่มขึ้น 

   
ตอนนี้แกชอบใครอยู่ปะวะมิ้ลค์กี้


กะ….แกจะบ้าหรอยุยแม้จะดูเป็นคำถามที่ชวนคุยเสียมากกว่าคำถามที่เจาะจงเอาคำตอบ แต่ก็อดทำให้มิยูกิรู้สึกตกใจกับคำถามของยุยไม่ได้  แค่ถามเฉยๆ ทำไมแกต้องทำตัวมีพิรุธด้วยเห็นเพื่อนสาวตายิ้มทำท่าลุกลี้ลุกลนจึงยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าอีกคนน่าแกล้งเข้าไปใหญ่


เอ๋ หรือว่า………”


อะไรของแก?


แกชอบใครอยู่ใช่มั้ยละ


ฉะ…..ฉันไม่ได้ชอบใครซะหน่อย


ไม่ได้ชอบก็ไม่ได้ชอบดิ ทำไมต้องหน้าแดงด้วย


ข้าวฉันได้และ เจอกันที่โต๊ะนะแกถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อสามารถหนีเพื่อนจอมตื้ออย่างยุยได้ ยุยเป็นพวกจับผิดชาวบ้านเก่งด้วยหน้าตาเรียบๆของเจ้าตัว ที่มิยูกิรู้สึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก


 มิยูกิมานั่งข้างฉันก็ได้นะ ตรงนี้ว่างพอดี ซายากะดึงเก้าอี้ที่อยู่ใต้โต๊ะก่อนเลื่อนให้เธอนั่ง แม้จะไม่อยากนั่งเสียเท่าไหร่แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก มองไปอีกฝั่งก็เห็นอันนะนั่งตรงข้ามกับซายากะโดยมีฮารุกะนั่งถัดจากอันนะมาอีกต่อนึง ขอบใจนะซายาเน่ มิยูกิทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ ก่อนจะนั่งกินข้าวและนั่งฟังบทสนทนาบนโต๊ะเงียบๆ


แล้วฮารุกะจังโอเคขึ้นแล้วใช่มั้ย


ดีขึ้นแล้วหล่ะซายากะจัง


เห็นยุยฮังดูแลพารุดี้ดี อันนินอดจะอิจฉาไม่ได้


แหม ก็ธรรมดาไม่เห็นมีอะไรเลย ยุยซื่อบื้อจะตาย


อะแฮ่มๆๆ


อะไรติดคอหรอคะ โยโกยาม่าซังฮารุกะหันไปมองคนยิ้มกวนๆที่ยกจากข้าวยื่นให้เธอด้วยความหมั่นไส้ อยากจะหยิกแขนคนกวนประสาทซักทีสองที แต่ก็ติดว่ากลัวจะไม่มีใครคอยรับคอยส่ง จึงทำได้แค่ส่งสายตาพิฆาตให้ยุยที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาว ความรักมั้ง เนอะมิลค์กี้


จะ…..เจ้าบ้ายุย


ความรัก? เดี๋ยวนี้แกมีความลับกับฉันหรอยัยมิ้ลค์นั่นเสียงของพารุพร้อมสายตาจับผิด ที่เธอคิดว่าคงไปติดนิสัยมาจากยุยแน่ๆ แล้วนี่มิลค์กี้ชอบใครหรอทำไมไม่บอกเลย อันนินรู้จักหรือเปล่าเสียงของอันนินดังขึ้น เจ้าตัวทำหน้างอ เดือดร้อนให้เธอต้องรีบส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน


ยิ่งกว่ารู้จักซะอีกหล่ะ………………..


ยุยมันก็บ้าพูดไปเรื่อย ฉันไม่ได้ชอบใครทั้งนั้นแหละ


ยุยอะ นิสัยไม่ดีเลยไปแกล้งมิลค์กี้ทำไม


เธอเพิ่งสังเกตว่าซายากะเงียบผิดปกติ คนผมสั้นนั่งกินข้าวเงียบไม่พูดไม่จาคล้ายจะไม่พอใจอะไรซักอย่าง มิยูกิรู้สึกทำตัวไม่ถูกจึงเลือกที่จะหันไปเถียงกับยุยแทน ใช่แกมันแย่จริงๆ เดี๋ยวฉันจะยุให้พารุเลิกกับแกเลย คอยดู!”


เดี๋ยวเหอะ!”


ไม่เอานะแก เดี๋ยวไม่มีใครคอยดูแลฉันพอดี


พารุเห็นเค้ามีค่าแค่นี้หรอ ใจร้ายจริง กระซิกๆยุยแกล้งปาดน้ำตาให้มิยูกิและฮารุกะส่ายหัวอย่างเอือมระอากับแอคติ้งของเจ้าตัว เดี๋ยวอันนินขอตัวขึ้นไปอ่านหนังสือก่อนนะ เน่ทานให้เสร็จแล้วค่อยตามอันนินไปก็ได้ค่ะ



อันนะเป็นพวกตั้งใจเรียนเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม หรือจะพูดให้ถูกก็คือเป็นอันดับหนึ่งของห้องเสียด้วยซ้ำ เจ้าตัวเป็นพวกไม่ชอบเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระซะเท่าไหร่ แม้ดูน่าแปลกใจไปซะหน่อยที่คนอย่างอันนะมาสนิทกับ มิยูกิ ฮารุกะ และยุย ได้แต่ทั้งสี่คนก็สนิทกันมาตั้งแต่มัธยมต้นจนมาถึงระดับชั้นปีสุดท้ายของมัธยม ทั้งสี่คนได้อยู่ห้องเดียวกันเลยยิ่งทำให้กลายเป็นยิ่งสนิทกันมากยิ่งขึ้น ด้วยภาพลักษณ์ของอันนะเลยทำให้สามคนที่เหลือไม่คิดที่จะพูดคำหยาบใส่ให้อีกคนระคายหู


งั้นเดี๋ยวเจอกันนะอันนิน” 


คนในโต๊ะโบกมือให้อันนะที่เดินขึ้นตึกเรียนไป ก่อนหันมาจัดการธุระของตัวเองให้เสร็จเพราะนี่ก็ใกล้หมดเวลาพักแล้ว มิยูกิรวบช้อนลงในจานก่อนควานหากระเป๋าสตางค์ในกางเกงพละเพื่อเก็บเงินให้ เป็นระเบียบ เธอติดนิสัยชอบยัดเงินทอนที่ได้จากการซื้อของไว้ในกระเป๋าเสื้อ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จึงก้มๆเงยๆให้ทั้งโต๊ะแปลกใจ


เป็นอะไรหรอ มิยูกิ?


เหมือนกระเป๋าสตางค์ของฉันจะหาย สงสัยจะไปวางลืมไว้ที่ไหนแน่ๆ


แล้วเมื่อกี้มิยูกิเอาเงินที่ไหนซื้อข้าว?ซายากะถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เจ้าตัวก้มมองไปรอบบริเวณโต๊ะแต่ก็ไม่พบสิ่งที่คลับคลายคลับคลาว่าจะเป็นสิ่งที่อีกคนหาอยู่ เงินมันอยู่ในกระเป๋าเสื้อฉันตั้งแต่เช้าหน่ะ


แกลองคิดดูดีๆ ว่าแกไปวางลืมที่ไหนหรือเปล่า


ห้องน้ำรึป่าวแก?


สงสัยฉันคงลืมไว้ที่โรงยิมมั้ง งั้นเดี๋ยวแกกับยุยบอกอาจารย์ให้ทีนะว่าฉันอาจขึ้นห้องช้าหน่อยยุยรับปากว่าจะบอกอาจารย์ประจำวิชาคาบถัดไปให้ไม่ต้องห่วง เจ้าตัวหันมาถามซายากะที่ส่ายหน้าปฎิเสธว่าไม่เป็นไรให้ขึ้นไปเลยไม่ต้องรอ เธออยากช่วยมิยูกิหากระเป๋ามากกว่า


 เดี๋ยวฉันช่วยหานะ


ฉันไม่อยากรบกวนซายาเน่หน่ะ ไม่เป็นไรหรอกฉันหาเองได้


ไม่ได้รบกวนอะไรเรื่องแค่นี้เอง


“……..”


มิยูกิรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆเมื่อคนที่เดินข้างกันฉวยมือเธอไปกุมอย่างถือวิสาสะ เจ้าตัวกุมมือเธอแน่นก่อนจะวิ่งหนีแดดที่สาดส่องมาตามทางเดินของโรงเรียน เร็วๆซิมิยูกิ เดี๋ยวโดนแดดก็ดำกันพอดี


ไม่คิดว่าอย่างซายาเน่ก็กลัวแดดกับเค้าด้วยนะเนี่ย คิก~”


ก็ฉันเป็นพวกดำง่ายนี่หน่า ไม่เหมือนมิยูกิหรอก


ถ้าขาวๆต้องแบบยัยพารุนู่น


นั่นซิเนอะ


 เขาว่ากันว่าเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ตอนนี้เธอทั้งคู่มาหยุดอยู่หน้าโรงยิม อยากจะยืดเวลาให้นานกว่านี้ซักหน่อย มันไม่บ่อยนักที่เธอกับซายากะจะได้คุยกันตามลำพังแบบนี้ เขาไปหาพร้อมกันนี่แหละ จะได้เจอไวๆ


เจอไหม?


ไม่เจอเลย ของในกระเป๋าถ้าหายไปนี่แย่เลยทำไงดี ซายากะหันไปปลอบคนที่ทำหน้าตาจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ค่อยๆคิดซิมิยูกิ


ลองดูที่ล็อกเกอร์รึยัง?


คนผมสั้นเดินนำเธอเข้าไปในด้านข้างโรงยิม ก่อนไปหยุดตรงล็อกเกอร์ที่ใช้เก็บสัมภาระของนักเรียนที่เข้ามาใช้โรงยิม สาวตายิ้มล้วงหยิบกุญแจที่เธอบังเอิญเสียบค้างเอาไว้ นี่มิยูกิเสียบกุญแจทิ้งไว้ทั้งแบบนี้หรอ!” ซายากะเอ็ดเธอเสียงดัง ให้เธอเอามือปิดปากอีกคนแทบไม่ทัน แค่ลืมทิ้งไว้เองทำไมต้องเสียงดังด้วยเล่า


อ้ะ เจอแล้วอยู่นี่เอง ขอบใจมากนะที่ช่วยหา


เปิดตู้ล็อคเกอร์ พลางยิ้มแป้นโชว์กระเป๋าสตางค์สีดำให้อีกคนดูเป็นเครื่องยืนยันว่าเจอสิ่งที่หาแล้วจริงๆนะ พร้อมกันดึงแขนคนที่ยืนอยู่ข้างตัวให้รีบออกไปจากโรงยิม เพราะนี่เลยเวลาเข้าเรียนมานานพอสมควรอีกอย่างเธอก็ไม่อยากอยู่กับอีกคนสองต่อสองนานๆด้วย


ถึงเธอจะแอบรู้สึกดีก็เถอะนะ


มิยูกิ ฉันถามอะไรหน่อยซิ


อะไรหรอ


ถ้ามีแฟนอยู่แล้ว แต่มิยูกิเองเกิดไปรู้สึกดีกับคนอื่น เธอจะทำยังไง?


พะ..พูดอะไรแปลกๆมีอะไรหรือเปล่า?


เห็นซายากะเม้มปากเหมือนช่างใจที่จะพูดอะไรออกมา เจ้าตัวเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับจ้องหน้าเธอให้เธอรู้สึกใจเต้น อีกคนกระซิบเบาๆที่ข้างหูก่อนจะเดินนำหน้าเธอออกไปจากโรงยิม


ไม่มีอะไรหรอก มันก็แค่เรื่องสมมติ…………..”



อย่างงั้นหรอ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น